Welcome and thanks for visiting my blog

วันพุธที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2561


บันทึกอนุทิน ครั้งที่ 17
วันอังคารที่ 1 พฤษภาคม 2561เวลา 13.00น.-17.30น. 
ชดเชยของวันจันทร์ที่ 23 เมษายน 2561 เวลา 11.30-14.30น.
________________________________

Knowledge (ความรู้)
- สอนเนื้อหาหลักสูตรปฐมวัย 2560
คลิ๊กดูหลักสูตรปฐมวัย2560
สาระสำคัญของหลักสูตรการศึกษาปฐมวัย 2560 ของ รองศาสตราจารย์ ดร.พัชรี ผลโยธิน
  • ช่วงวัยทารก/วัยเตาะแตะ ช่วงอายุ 0-3ปี
  • ช่วงวัยก่อนเข้าโรงเรียน ช่วงอายุ 3-5 ปี
  • ช่วงวัยอนุบาล ช่วงอายุ 5-6 ปี
ความหมายของหลักสูตร
คือ การวางแผนสิ่งที่ต้องการให้เกิดขึ้นในการเรียน อาจอยู่ในรูปที่มองเห็น คือ เอกสารหลักสูตรและสิ่งที่มองไม่เห็น เช่น ปฏิสัมพันธ์(การยิ้ม การไหว้ สายตา การพูดคุย)

ความสำคัญของหลักสูตร
  • เป็นเอกสารทางราชการ
  • เป็นเกณฑ์มาจราฐานทางการศึกษาปฐมวัย
  • เป็นเครื่องมือที่ช่วยสร้างเอกภาพของชาติ
  • เป็นแผนดำเนินงานของผู้บริหารสถานศึกษา
  • เป็นเครื่องชี้นำทางในการปฏบัติงานของครูปฐมวัย
  • เป็นแนวทางในการจัดประสบการณ์การเรียนการสอนของครูเพื่อพัฒนาเด็ก

ลักษณะของหลักสูตรการศึกษาปฐมวัย
  • เป็นเอกภาพ
  • มีความยืดหยุ่น(ปรับเปลี่ยนได้)
  • มีความเป็นสากลบนพื้รฐานความเป็นไทย
  • กำหนดช่วงอายุตั้งแต่แรกเกิด-6ปีบริบูรณ์
  • ใช้ได้กับทุกกลุ่มเป้าหมาย(กลุ่มเสี่ยง เด็กพิเศษ เด็กตามชายแดน)

จุดเน้นของหลักสูตรการศึกษาปฐมวัย
  • พัฒนาเด็กอย่างเป็นองค์รวม(พัฒนาทั้ง 4 ด้าน ให้มีความสมดุลกัน
  • ยึดเด็กเป็นสำคัญ(ให้เด็กมีส่วนร่วม)
  • เรียนรู้ด้วยการลงมือกระทำ
  • บูรณาการผ่านการเล่นและประสบการณ์สำคัญ

การพัฒนาเด็กอย่างเป็นองค์รวม
  • พัฒนาพร้อมกันทุกด้าน
  • พัฒนาตามแนวปฏิบัติที่เหมาะสมกับพัฒนาเด็ก
  • สร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเรียนรู้
  • จัดประสบการณ์บูรณาการผ่านการเล่น
  • จัดกิจกรรมที่หลากหลาย
  • ประเมินพัฒนาการและการเรียนรู้ของเด็กเป็นรายบุคคล
  • ปฏิสัมพันธ์ที่ดีระหว่างครูและครอบครัวเด็ก(แลกเปลี่ยนข้อมูลเด็ก/มีผู้สนับสนุน)

องค์ประกอบหลักสูตร
  • ปรัชญาการศึกษาปฐมวัย(ความเชื่อ)
  • วิสัยทัศน์(เป้าหมายที่ต้องการไปให้ถึงตามความเชื่อ)
  • หลักการ(แนวทาง)
  • หลักสูตรการศึกษาปฐมวัยสำหรับเด็กอายุต่ำกว่า 3 ปี
  • หลักสูตรการศึกษาปฐมวัยสำหรับเด็กอายุ 3-6 ปี

Application (การประยุกต์ใช้)
       สามารถนำเอาความรู้ที่ได้รับไปปรับใช้ในการจัดรูปแบบแนวการสอน เพื่อให้สอดคล้องกับผู้เรียนเป็นหลักและใช้หลักการทฤษฎีต่างๆ มาประยุกต์ใช้ ให้เกิดประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เนื่องจากแต่ละโรงเรียนมีแนวการสอนที่ไม่เหมือนกัน เราจึงสามารถดึงเอาความรู้ที่ได้เรียนไปใช้ได้จริง

Evaluation (การประเมิน)
  • Self (ตนเอง) ตั้งใจเรียน จดบันทึกตามที่อาจารย์สอน และตอบคำถาม
  • Friends (เพื่อน)เพื่อนให้ความร่วมมือตอบคำถามมีคุยบ้างเล็กน้อย
  • Teacher (อาจารย์) ตรงต่อเวลา เมื่อไม่เข้าใจอาจารย์จะอธิบายเพิ่ม พร้อมยกตัวอย่างประกอบ
บันทึกอนุทิน ครั้งที่ 16
วันจันทร์ที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2561
เวลา 11.30 - 14.30 น. 
________________________________

Knowledge (ความรู้)
- การจัดประสบการณ์ควรออกแบบให้สอดคล้องและเหมาะสมกับพัฒนาการของสมองและวิธีการเรียนรู้

- การจัดประสบการณ์เรียนรู้ควรออกแบบให้เด็กได้ลงมือกระทำหรือเรียกว่าการจัดการเรียนการสอนแบบ Active Learning

   Active Learning  จึงเป็นกระบวนการจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดการสร้างสรรค์ทางปัญญา (Constructivism) ที่เน้นกระบวนการเรียนรู้มากกว่าเนื้อหาวิชา เพื่อช่วยให้ผู้เรียนสามารถเชื่อมโยงความรู้ หรือสร้างความรู้ให้เกิดขึ้นในตนเอง ด้วยการลงมือปฏิบัติจริงผ่านสื่อหรือกิจกรรมการเรียนรู้ ที่มีครูผู้สอนเป็นผู้แนะนำ กระตุ้น หรืออำนวยความสะดวก ให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ขึ้น โดยกระบวนการคิดขั้นสูง กล่าวคือ ผู้เรียนมีการวิเคราะห์ สังเคราะห์ และการประเมินค่าจากสิ่งที่ได้รับจากกิจกรรมการเรียนรู้ ทำให้การเรียนรู้เป็นไปอย่างมีความหมายและนำไปใช้ในสถานการณ์อื่นๆได้อย่างมีประสิทธิภาพ (สถาพร พฤฑฒิกุล, 2558)
ลักษณะของการจัดการเรียนการสอนแบบ Active Learning เป็นดังนี้ (ไชยยศ เรืองสุวรรณ, 2553)
1. เป็นการเรียนการสอนที่พัฒนาศักยภาพทางสมอง ได้แก่ การคิด การแก้ปัญหา และการนำความรู้ไปประยุกต์ใช้
2. เป็นการเรียนการสอนที่เปิดโอกาสให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมในกระบวนการเรียนรู้สูงสุด
3. ผู้เรียนสร้างองค์ความรู้และจัดกระบวนการเรียนรู้ด้วยตนเอง
4. ผู้เรียนมีส่วนร่วมในการเรียนการสอนทั้งในด้านการสร้างองค์ความรู้ การสร้างปฏิสัมพันธ์ร่วมกัน ร่วมมือกันมากกว่าการแข่งขัน
5. ผู้เรียนเรียนรู้ความรับผิดชอบร่วมกัน การมีวินัยในการทํางาน และการแบ่งหน้าที่ความรับผิดชอบ
6. เป็นกระบวนการสร้างสถานการณ์ให้ผู้เรียนอ่าน พูด ฟัง คิดอย่างลุ่มลึก ผู้เรียนจะเป็นผู้จัดระบบการเรียนรู้ด้วยตนเอง
7. เป็นกิจกรรมการเรียนการสอนที่เน้นทักษะการคิดขั้นสูง
8. เป็นกิจกรรมที่เปิดโอกาสให้ผู้เรียนบูรณาการข้อมูลข่าวสาร หรือสารสนเทศ และหลักการความคิดรวบยอด
9. ผู้สอนจะเป็นผู้อำนวยความสะดวกในการจัดการเรียนรู้ เพื่อให้ผู้เรียนเป็นผู้ปฏิบัติด้วยตนเอง
10. ความรู้เกิดจากประสบการณ์ การสร้างองค์ความรู้ และการสรุปทบทวนของผู้เรียน

Executive Function (EF)
      Executive Function (EF) คือ การทำงานของสมองด้านการจัดการ ซึ่งมีอิทธิพลต่อความสำเร็จในชีวิต โดยอาศัยกระบวนการทางปัญญา (cognitive process) ต่างๆ เช่น การยับยั้งความคิด การแก้ปัญหา การวางเป้าหมาย การวางแผนการปฏิบัติ (goal-directed behavior) การจดจำ ความยืดหยุ่นทางปัญญา (cognitive flexibility) เป็นความสามารถในการควบคุมความคิดตนเอง เช่น มีรูปแบบความคิดที่หลากหลาย การคิดนอกกรอบ ความสามารถในการปรับเปลี่ยนความคิดและความสนใจตามสถานการณ์ รวมถึงการปฏิบัติตามคำสั่งที่ซับซ้อน กระบวนการทางปัญญาเหล่านี้สามารถพัฒนาได้ในวัยเด็กตอนต้น ผ่านกิจกรรมที่ต้องใช้ทักษะด้านสังคม อารมณ์ และร่างกายเพื่อช่วยส่งเสริม EF ให้ดีขึ้น เช่นการเล่นดนตรี เป็นหนึ่งในกิจกรรมที่กระตุ้นการทำงานของ EF เพราะต้องอาศัยทักษะต่างๆ เช่น การมีสมาธิอย่างต่อเนื่อง ความยืดหยุ่นทางปัญญา การปรับเปลี่ยนวิธีการทำงาน (task switching)

Application (การประยุกต์ใช้)
     สามารถนำเอาความรู้ที่ได้รับไปปรับใช้ในการจัดรูปแบบแนวการสอน เพื่อให้สอดคล้องกับผู้เรียนเป็นหลักและใช้หลักการทฤษฎีต่างๆ มาประยุกต์ใช้ ให้เกิดประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เนื่องจากแต่ละโรงเรียนมีแนวการสอนที่ไม่เหมือนกัน เราจึงสามารถดึงเอาความรู้ที่ได้เรียนไปใช้ได้จริง


Evaluation (การประเมิน)
  • Self (ตนเอง) ตั้งใจเรียน จดบันทึกตามที่อาจารย์สอน และตอบคำถาม
  • Friends (เพื่อน)เพื่อนให้ความร่วมมือตอบคำถามมีคุยบ้างเล็กน้อย
  • Teacher (อาจารย์) ตรงต่อเวลา เมื่อไม่เข้าใจอาจารย์จะอธิบายเพิ่ม พร้อมยกตัวอย่างประกอบ

บันทึกอนุทิน ครั้งที่ 15
วันจันทร์ที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2561
เวลา 11.30 - 14.30 น. 
________________________________


ทบทวนความรู้ เรียนชดเชยวันที่ 
1 พฤษภาคม 2561



บันทึกอนุทิน ครั้งที่ 14
วันจันทร์ที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2561
เวลา 11.30 - 14.30 น. 
________________________________


*** หมายเหตุ วันหยุดสงกรานต์



บันทึกอนุทิน ครั้งที่ 13
วันจันทร์ที่ 4 เมษายน 2561วลา 14.00น.-17.00น. 
ชดเชยของวันจันทร์ที่ 9 เมษายน 2561 เวลา 11.30น.- 14.30น.
________________________________

Knowledge (ความรู้)
-สอนกิจกรรมเสริมประสบการณ์ของหน่วยต่างๆ 
1.หน่วยฝนจ๋า
2.หน่วยน้ำ







    ข้อเสนอแนะจากอาจารย์
การสอนควรใช้คำถามกับเด็ก เพื่อเป็นการกระตุ้นการคิด คำถามควรใช้คำถามปลายเปิด เพื่อให้เด็กได้คิด 

คำศัพท์ (Vocabuiary)
Transport - การขนส่ง
Career - อาชีพ
Thunderclap - ฟ้าผ่า
Umbrella - ร่ม
Sore throat - เจ็บคอ
Raincoat - เสื้อกันฝน

Application (การประยุกต์ใช้)
     สามารถนำเอาความรู้ที่ได้รับไปปรับใช้ในการจัดรูปแบบแนวการสอน เพื่อให้สอดคล้องกับผู้เรียนเป็นหลักและใช้หลักการทฤษฎีต่างๆ มาประยุกต์ใช้ ให้เกิดประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เนื่องจากแต่ละโรงเรียนมีแนวการสอนที่ไม่เหมือนกัน เราจึงสามารถดึงเอาความรู้ที่ได้เรียนไปใช้ได้จริง

Evaluation (การประเมิน)
  • Self (ตนเอง) ตั้งใจเรียน จดบันทึกตามที่อาจารย์สอน และตอบคำถาม
  • Friends (เพื่อน)เพื่อนให้ความร่วมมือตอบคำถามมีคุยบ้างเล็กน้อย
  • Teacher (อาจารย์) ตรงต่อเวลา เมื่อไม่เข้าใจอาจารย์จะอธิบายเพิ่ม พร้อมยกตัวอย่างประกอบ
บันทึกอนุทิน ครั้งที่ 12
วันจันทร์ที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2561
เวลา 11.30 - 14.30 น. 
________________________________

Knowledge (ความรู้)
- สอนกิจกรรมเสริมประสบการณ์ของหน่วยต่างๆ ดังนี้
1.หน่วยตัวเรา 
2.หน่วยผีเสื้อแสนสวย
3.หน่วยของเล่นของใช้
4.หน่วยฝนจ๋า
5.หน่วยน้ำ
6.หน่วนยานพาหนะ
7.หน่วยไข่







      อาจารย์ได้แนะนำเพิ่มเติม
1.ปัจจัยการดำรงชีวิตของผีเสื้อ คือ แสงแดด ออกซิเจน และอาหาร
2.ถ้าสื่อเป็นภาพเล็ก ต้องกะขนาดให้พอดี ให้เหมาะสมกับเด็ก ไม่ให้สื่อเล็กจนเกินไป และควรทำสื่อให้มีความแข็งแรง เช่น ติดใส่กระดาษแข็งหรือฟิวเจอร์บอร์ด         
3.ในหน่วยของเล่นของใช้ การดูแลรักษาของเล่นของใช้จะต้องเป็นสิ่งที่กระทบต่อเด็กโดยตรง เช่น เพราะไม่เก็บของเล่นให้เข้าที่ จึงทำให้เกิดอุบัติเหตุ
4.ในหน่วยยานพาหนะ ที่ใช้คำคล้องจองในขั้นนำ จะต้องใช้คำถาม ถามเกี่ยวกับในคำคล้องจอง
5.ในหน่วยตัวเรา ทำตารางอวัยวะ และมีหน้าที่ของอวัยวะนั้น
6.หน่วยน้ำ สอนให้เด็กรู้จักคำว่า อุปโภค และบริโภค จากนั้น มีภาพมาให้เด็กเลือกเพื่อนำไปติดในตารางว่าภาพใดบ้างที่เป็นการใช้น้ำแบบอุปโภค และภาพใดเป็นการบริโภค
7.หน่วยไข่ เป็นการดองไข่เค็ม สามารถสอนเด็กเกี่ยวกับรายวิชาคณิตศาสตร์ได้เรื่องการคาดคะเน

คำศัพท์ (Vocabuiary)
Consumer - อุปโภค
Consume - บริโภค
Security - ความปลอดภัย 
Accident - อุบัติเหตุ 
Organ - อวัยวะ

Application (การประยุกต์ใช้)
     สามารถนำเอาความรู้ที่ได้รับไปปรับใช้ในการจัดรูปแบบแนวการสอน เพื่อให้สอดคล้องกับผู้เรียนเป็นหลักและใช้หลักการทฤษฎีต่างๆ มาประยุกต์ใช้ ให้เกิดประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เนื่องจากแต่ละโรงเรียนมีแนวการสอนที่ไม่เหมือนกัน เราจึงสามารถดึงเอาความรู้ที่ได้เรียนไปใช้ได้จริง

Evaluation (การประเมิน)
  • Self (ตนเอง) ตั้งใจเรียน จดบันทึกตามที่อาจารย์สอน และตอบคำถาม
  • Friends (เพื่อน)เพื่อนให้ความร่วมมือตอบคำถามมีคุยบ้างเล็กน้อย
  • Teacher (อาจารย์) ตรงต่อเวลา เมื่อไม่เข้าใจอาจารย์จะอธิบายเพิ่ม พร้อมยกตัวอย่างประกอบ
บันทึกอนุทิน ครั้งที่ 11
วันจันทร์ที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2561
เวลา 11.30 - 14.30 น. 
________________________________

Knowledge (ความรู้)
- สอนกิจกรรมเสริมประสบการณ์ของหน่วยต่างๆ 
1.หน่วยตัวเรา
2.หน่วยผีเสื้อแสนสวย
3.หน่วยของเล่นของใช้
4.หน่วยฝนจ๋า
5.หน่วยน้ำ
6.หน่วนยานพาหนะ
7.หน่วยไข่

แผนการจัดประสบการณ์ ชั้น อนุบาล 1 กิจกรรม เสริมประสบการณ์ (วันพุธ)

วัตถุประสงค์
1.เด็กบอกและอธิบายวงจรชีวิตของผีเสื้อได้
2.เด็กบอกและแสดงความคิดเห็นร่วมกับผู้อื่นได้
3.เด็กทำงานร่วมกับผู้อื่นได้

สาระการเรียนรู้
สาระที่ควรเรียนรู้
วัฏจักรของผีเสื้อ

ประสบการณ์สำคัญ
ด้านร่างกาย
1.การเขียนภาพและการเล่นกับสี
ด้านอารมณ์ จิตใจ
2.การรู้จักสิ่งต่างๆ ด้วยการมอง ฟัง สัมผัส และดมกลิ่น
ด้านสังคม
3.การแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและเคารพความคิดเห็นของผู้อื่น
ด้านสติปัญญา
4.การแสดงความรู้สึกด้วยคำพูด
5.การแสดงออกอย่างสนุกสนานกับเรื่องราว

กิจกรรมการเรียนรู้
ขั้นนำ
1.เด็กและครูร่วมกันสนทนาเกี่ยวกับผีเสื้อ หลังจากนั้นครูเปิดวิดีโอ “วัฏจักรของผีเสื้อ” ให้เด็กดู
ขั้นสอน
2. ครูและเด็กร่วมกันสนทนาเกี่ยวกับเนื้อหาจากวิดีโอ “วัฏจักรของผีเสื้อ” โดยใช้คำถาม ดังนี้ “เด็กๆ คิดว่ากว่าจะเป็นผีเสื้อมันแปลงร่างมาจากอะไรมาบ้าง”
“อะไรออกมาจากไข่”
“ตัวหนอนแปลงร่างไปเป็นอะไร”
“ดักแด้แปลงร่างไปเป็นอะไร”
“ผีเสื้อออกลูกเป็นอะไร”
3.ครูให้เด็กดูภาพวัฏจักรของผีเสื้อ และสนทนาเกี่ยวกับภาพ
4.ครูและเด็กร่วมกันต่อจิกซอว์ภาพวัฏจักรของผีเสื้อ
ขั้นสรุป
5.ครูและเด็กร่วมกันสรุปเกี่ยวกับวัฏจักรของผีเสื้อ

สื่อ/แหล่งเรียนรู้
1.วิดีโอ“วัฏจักรของผีเสื้อ”
2.ภาพวงจรชีวิตของผีเสื้อ
3.จิกซอว์ภาพวัฏจักรของผีเสื้อ

การวัดและประเมินผล
สังเกตพฤติกรรม
1.บอกวงจรชีวิตของผีเสื้อได้
2.บอกและแสดงคิดเห็นร่วมกับผู้อื่นได้
3.ทำงานร่วมกับผู้อื่นได้

ชิ้นงานร่องรอยการเรียนรู้
ภาพถ่ายประกอบกิจกรรม







คำศัพท์ (Vocabuiary)
Cycle - วงจร
Wash - ล้าง
Cook - ทำอาหาร
Prong - ส้อม
Chrysalis - ดักแด้

Application (การประยุกต์ใช้)
     สามารถนำเอาความรู้ที่ได้รับไปปรับใช้ในการจัดรูปแบบแนวการสอน เพื่อให้สอดคล้องกับผู้เรียนเป็นหลักและใช้หลักการทฤษฎีต่างๆ มาประยุกต์ใช้ ให้เกิดประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เนื่องจากแต่ละโรงเรียนมีแนวการสอนที่ไม่เหมือนกัน เราจึงสามารถดึงเอาความรู้ที่ได้เรียนไปใช้ได้จริง

Evaluation (การประเมิน)
  • Self (ตนเอง) ตั้งใจเรียน จดบันทึกตามที่อาจารย์สอน และตอบคำถาม
  • Friends (เพื่อน)เพื่อนให้ความร่วมมือตอบคำถามมีคุยบ้างเล็กน้อย
  • Teacher (อาจารย์) ตรงต่อเวลา เมื่อไม่เข้าใจอาจารย์จะอธิบายเพิ่ม พร้อมยกตัวอย่างประกอบ
บันทึกอนุทิน ครั้งที่ 10
วันจันทร์ที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2561
เวลา 11.30 - 14.30 น. 
________________________________

Knowledge (ความรู้)
-สอนกิจกรรมเสริมประสบการณ์
1.หน่วยตัวเรา
2.หน่วยผีเสื้อแสนสวย
3.หน่วยของเล่นของใช้
4.หน่วยฝนจ๋า
5.หน่วยน้ำ
6.หน่วนยานพาหนะ
7.หน่วยไข่
วัตถุประสงค์
1.เพื่อให้เด็กสามารถบอกรูปร่าง ลักษณะและสีของผีเสื้อได้
2.เพื่อให้เด็กแสดงความคิดเห็นร่วมกับผู้อื่นได้
3.เพื่อให้เด็กสามารถร่วมสนทนากับครูและเพื่อนได้
4.เพื่อฝึกทักษะกระบวนการคิด

สาระการเรียนรู้
สาระที่ควรเรียนรู้
ลักษณะและส่วนประกอบของผีเสื้อ

ประสบการณ์สำคัญ
ด้านสังคม
1.การแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและเคารพความคิดเห็นของผู้อื่น
ด้านสติปัญญา
2.การแสดงความรู้สึกด้วยคำพูด
3.การรู้จักสิ่งต่างๆ ด้วยการมอง ฟัง
ด้านอารมณ์-จิตใจ
4.การแสดงออกอย่างสนุกสนาน

กิจกรรมการเรียนรู้
ขั้นนำ
1.เด็กและครูร่วมกันร้องเพลง “ผีเสื้อแสนงาม” และสนทนาเกี่ยวกับเนื้อหาของเพลง
“ ผีเสื้อแสนงาม ”
ผีเสื้อเอยผีเสื้อแสนงาม
เจ้าโบยบินไปตอมดอกไม้
ดูดน้ำหวานสำราญใจ
สุขกะไรหนอผีเสื้อแสนงาม
ขั้นสอน
2.ครูนำภาพผีเสื้อมาให้เด็กดูและให้เด็กสังเกตว่าผีเสื้อมีลักษณะอย่างไรและมีส่วนประกอบอะไรบ้าง
3.ครูและเด็กร่วมกันสนทนาถึงรูปร่างลักษณะ สีและส่วนประกอบของผีเสื้อ
โดยครูใช้คำถาม ดังนี้ 
- เด็กๆรู้ไหมในภาพผีเสื้อมีส่วนประกอบอะไรบ้าง
- ผีเสื้อมีปีกไว้ทำอะไร
- ผีเสื้อมีสีอะไรบ้าง
-ผีเสื้อมีขากี่ขา
4.ครูเลือกเด็กออกมาเป็นตัวแทนในการติดส่วนประกอบของผีเสื้อ
ขั้นสรุป
5.เด็กและครูร่วมกันสรุปเกี่ยวกับ “ลักษณะและส่วนประกอบของผีเสื้อ”

สื่อ/แหล่งเรียนรู้
1. เพลง “ผีเสื้อแสนงาม”
2. ภาพผีเสื้อ

การวัดและประเมินผล
1.สังเกตการสนทนาแสดงความคิดเห็น
2.สังเกตการยอมรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น
3.สังเกตการบอกวงจรชีวิตของผีเสื้อ

การบูรณาการ
- ภาษา
- คณิตศาสตร์
- วิทยาศาสตร์






 อาจารย์ได้แนะนำเพิ่มเติม
1.ขั้นนำถ้าหากจะเลือกใช้เพลง นิทาน หรือคำคล้องจอง ควรมีเนื้อหาที่สอดคล้องกับเนื้อหาที่จะต้องสอนในวันนั้นๆ
2.ถามเกี่ยวกับเพลง นิทาน หรือคำคล้องจองที่ใช้ในขั้นนำ
3.เด็กต้องได้มีส่วนร่วมในกิจกรรม
4.หากมีการเปรียบเทียบสิ่งของ จะต้องมีการบันทึกลง Venn Diagram โดยจะต้องให้เด็กสังเกตลักษณะไปทีละชนิด

คำศัพท์ (Vocabuiary)
Rain - ฝน
Body - ร่างกาย
Egg - ไข่
Vehicles - ยานพาหนะ
Butterfly - ผีเสื้อ
Toy - ของเล่น
Appliance - ของใช้
Water - น้ำ

Application (การประยุกต์ใช้)
     สามารถนำเอาความรู้ที่ได้รับไปปรับใช้ในการจัดรูปแบบแนวการสอน เพื่อให้สอดคล้องกับผู้เรียนเป็นหลักและใช้หลักการทฤษฎีต่างๆ มาประยุกต์ใช้ ให้เกิดประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เนื่องจากแต่ละโรงเรียนมีแนวการสอนที่ไม่เหมือนกัน เราจึงสามารถดึงเอาความรู้ที่ได้เรียนไปใช้ได้จริง

Evaluation (การประเมิน)
  • Self (ตนเอง) ตั้งใจเรียน จดบันทึกตามที่อาจารย์สอน และตอบคำถาม
  • Friends (เพื่อน)เพื่อนให้ความร่วมมือตอบคำถามมีคุยบ้างเล็กน้อย
  • Teacher (อาจารย์) ตรงต่อเวลา เมื่อไม่เข้าใจอาจารย์จะอธิบายเพิ่ม พร้อมยกตัวอย่างประกอบ

บันทึกอนุทิน ครั้งที่ 8
วันจันทร์ที่ 5 มีนาคม พ.ศ. 2561
เวลา 11.30 - 14.30 น. 
_______________________________

Knowledge (ความรู้)
-การสอนแผนเคลื่อนไหวและจังหวะ

แผนการสอนเคลื่อนไหวและจังหวะ
       กิจกรรมเคลื่อนไหวและจังหวะ หมายถึง กิจกรรมที่จัดให้เด็กได้เคลื่อนไหวส่วนต่างๆ ของร่าง กายอย่างอิสระ โดยใช้เสียงเพลง จังหวะ และทำนอง คำคล้องจอง หรือเครื่องดนตรีประกอบ การเคลื่อนไหว เพื่อส่งเสริมให้เด็กเกิดจินตนาการความคิดสร้างสรรค์ เรียนรู้จังหวะ และควบคุมการเคลื่อนไหวของตนเองได้

กิจกรรมเคลื่อนไหวและจังหวะมีประโยชน์ต่อเด็กปฐมวัยอย่างไร
       การเคลื่อนไหวจะช่วยให้สายตาของเด็กมีพัฒนาการ รู้ช่องว่างระหว่างบุคคลและสิ่งของ
เด็กต้องการเดิน วิ่ง หรือกลิ้ง การกระทำดังกล่าวเกี่ยวข้องกับกลไกของกล้ามเนื้อมัดใหญ่ของร่างกาย
การเคลื่อนไหวจะช่วยให้เด็กรับรู้ภาพที่ปรากฏ แยกออกระหว่างวัตถุกับตัวเด็ก รวมทั้งการกะระยะใกล้ไกลของตัวเด็กกับวัตถุ
ความสามารถของการควบคุมและการประเมินตนเองเกี่ยวกับระยะ น้ำหนัก แรง ความเร็ว ความเร่ง ซึ่งจะเกี่ยวข้องกับการเคลื่อนไหวที่เด็กควรตระหนักรู้
ความสามารถในการจำแนกเสียงต่างๆ ในสิ่งแวดล้อมและวัตถุในสิ่งแวดล้อมว่ามีความสัมพันธ์อย่างไร และเด็กเองควรจะตอบสนองอย่างไร อีกทั้งยังเป็นเรื่องของการตระหนักในการฟัง
กลไกการรับรู้จะได้รับการพัฒนา เด็กจะมีความสามารถในการนำเอาการรับรู้สิ่งเร้าด้วยการฟังและการสังเกตมาแสดงออกทางการเคลื่อนไหว
เด็กแต่ละคนมีความแตกต่างกันของรูปร่าง และเด็กที่แตกต่างกันในแต่ละอายุจะมีขนาดและรูปร่างต่างกัน ดังนั้นเด็กจะเรียนรู้ตนเองและสมรรถนะตนเองต่างกันครูจัดกิจกรรมอย่างไร
        
           กิจกรรมเคลื่อนไหวและจังหวะ เป็นกิจกรรมที่ส่งเสริมการเคลื่อนไหวส่วนต่างๆของร่างกาย กระทรวงศึกษาธิการจึงได้กำหนดลักษณะของการจัดกิจกรรม ดังนี้
1. เป็นการเคลื่อนไหวร่างกายที่ใช้กล้ามเนื้อมัดใหญ่ ที่มีรูปแบบของการเคลื่อนไหวดังนี้
การเคลื่อนไหวพื้นฐาน ได้แก่ การเคลื่อนไหวอยู่กับที่ การเคลื่อนไหวเคลื่อนที่
การเลียนแบบ เช่น ท่าทางสัตว์ ท่าทางคน เครื่องยนต์กลไก และเครื่องเล่น ปรากฏการณ์ธรรมชาติ
การเคลื่อนไหวตามบทเพลง เช่น การเคลื่อนไหวหรือทำท่าทางประกอบเพลง
การทำท่าทางกายบริหารประกอบเพลง เช่น การทำท่าทางกายบริหารตามจังหวะและทำนองเพลง หรือคำคล้องจอง
การเคลื่อนไหวเชิงสร้างสรรค์ เช่น การเคลื่อนไหวที่ให้เด็กคิดสร้างสรรค์ท่าทางขึ้นเอง อาจชี้นำด้วยการป้อนคำถาม เคลื่อนไหวโดยใช้อุปกรณ์ประกอบ เช่น ห่วงหวาย แถบผ้า ริบบิ้น ถุงทราย
การเล่นหรือการแสดงท่าทางตามคำบรรยายเรื่องราว เช่น การเคลื่อนไหวหรือแสดงท่าทางตามจินตนาการจากเรื่องราวหรือคำบรรยายที่ครูเล่า
การปฏิบัติตามคำสั่งและข้อตกลง เช่น การเคลื่อนไหวหรือทำท่าทางตามสัญญาหรือคำสั่งตามที่ได้ตกลงไว้ก่อนเริ่มกิจกรรม
การฝึกทำท่าทางเป็นผู้นำ-ผู้ตาม เช่น การเคลื่อนไหวหรือทำท่าทางจากความคิดสร้างสรรค์ของเด็กเอง แล้วให้เพื่อนปฏิบัติตาม
2. ใช้เพลง เครื่องดนตรีประกอบการเคลื่อนไหว คำคล้องจอง
3. ส่งเสริมให้เด็กได้ใช้ส่วนต่างๆ ของร่างกายให้ประสานสัมพันธ์กันอย่างสมบูรณ์ด้วยการใช้จินตนาการและความคิดสร้างสรรค์สู่การเคลื่อนไหวลักษณะต่างๆ คือ เคลื่อนช้า ได้แก่ คืบ-คลาน เคลื่อนเร็ว เช่น วิ่ง เคลื่อนนุ่มนวล เช่น การบิน การไหว้ เคลื่อนไหวขึงขัง เช่น การกระทืบเท้าดังๆ ตีกลองดังๆ การเคลื่อนไหวแสดงท่าทางร่าเริงมีความสุข เช่น การตบมือตามจังหวะ และการเคลื่อนไหวแสดงความเศร้าโศก เสียใจ เช่น แสดงสีหน้า ท่าทาง เป็นต้น
4. การเคลื่อนไหวแสดงทิศทาง เช่น ข้างหน้า ข้างหลัง ข้างซ้าย ข้างขวา เคลื่อนตัวขึ้น-ลง เคลื่อนไหวรอบทิศ

คำศัพท์ (Vocabuiary)
Motion and rhythm - เคลื่อนไหวและจังหวะ
Jump - กระโดด
Exercise - กายบริหาร
Music - ดนตรี
Creative - สร้างสรรค์
Free - อิสระ

Application (การประยุกต์ใช้)
     สามารถนำเอาความรู้ที่ได้รับไปปรับใช้ในการจัดรูปแบบแนวการสอน เพื่อให้สอดคล้องกับผู้เรียนเป็นหลักและใช้หลักการทฤษฎีต่างๆ มาประยุกต์ใช้ ให้เกิดประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เนื่องจากแต่ละโรงเรียนมีแนวการสอนที่ไม่เหมือนกัน เราจึงสามารถดึงเอาความรู้ที่ได้เรียนไปใช้ได้จริง

Evaluation (การประเมิน)
  • Self (ตนเอง)  ตั้งใจเรียน จดบันทึกตามที่อาจารย์สอน และตอบคำถาม
  • Friends (เพื่อน)  เพื่อนให้ความร่วมมือตอบคำถาม มีคุยบ้างเล็น้อย
  • Teacher (อาจารย์) ตรงต่อเวลา เมื่อไม่เข้าใจอาจารย์จะอธิบายเพิ่ม พร้อมยกตัวอย่างประกอบ

บันทึกอนุทิน ครั้งที่ 6
วันจันทร์ที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561
เวลา 11.30 - 14.30 น. 
_____________________________

Knowledge (ความรู้)

      - ทำmind mapping ของหน่วยตัวเอง

การบูรณาการทักษะวิชาหน่วยผีเสื้อ
การบูรณาการทักษะวิชาหน่วยยานพาหนะ
การบูรณาการทักษะวิชาหน่วยไข่
การบูรณาการทักษะวิชาหน่วยแหล่งน้ำ
การบูรณาการทักษะวิชาหน่วยตัวเรา
การบูรณาการทักษะวิชาหน่วยของเล่นของใช้
-mind mapping 6 กิจกรรมหลัก หน่วยผีเสื้อ

Application (การประยุกต์ใช้)
    
       สามารถนำเอาความรู้ที่ได้รับไปปรับใช้ในการจัดรูปแบบแนวการสอน เพื่อให้สอดคล้องกับผู้เรียนเป็นหลักและใช้หลักการทฤษฎีต่างๆ มาประยุกต์ใช้ ให้เกิดประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เนื่องจากแต่ละโรงเรียนมีแนวการสอนที่ไม่เหมือนกัน เราจึงสามารถดึงเอาความรู้ที่ได้เรียนไปใช้ได้จริง

Evaluation (การประเมิน)
  • Self (ตนเอง)   ตั้งใจเรียน จดบันทึกตามที่อาจารย์สอน และตอบคำถาม
  • Friends (เพื่อน)   เพื่อนให้ความร่วมมือตอบคำถาม มีคุยบ้างเล็กน้อย
  • Teacher (อาจารย์)   ตรงต่อเวลา เมื่อไม่เข้าใจอาจารย์จะอธิบายเพิ่ม พร้อมยกตัวอย่างประกอบ

บันทึกอนุทิน ครั้งที่ 17 วันอังคารที่ 1 พฤษภาคม 2561 เวลา 13.00 น.- 17.30 น.   ชดเชยของวันจันทร์ที่ 23 เมษายน 2561 เวลา 11.30-14.30 ...